ทำไม่ได้ ไม่ได้ทำ ทำแล้วยังไม่ได้ ไม่เหมือนกันนะ
 มักจะมีคนพูดบ่อยๆว่า รู้...แต่ทำไม่ได้ เข้าใจ...แต่....
มักจะมีคนพูดบ่อยๆว่า รู้...แต่ทำไม่ได้ เข้าใจ...แต่....
หลายๆคนในที่นี้ได้อ่านบทความเกี่ยวกับการรู้จักความรักมาก็เยอะแล้ว บางคนบอกว่าอ่านแล้วทำให้เข้าใจความรักมากขึ้น อ่านแล้วรู้สึกดี แต่พอถึงเวลาภาคสนามจะลืม^^”
คิดไปเอง คิดนอกกรอบ
 เคยเขียนไว้ในบันทึก “โลกของฉัน”
เคยเขียนไว้ในบันทึก “โลกของฉัน”
http://leolino21.multiply.com/journal/item/8/8
และแทรกๆ อยู่ในบทความอื่นๆ เกี่ยวกับเรื่องความคิดของเรา
ที่เป็นตัวการทำให้เกิดปัญหาต่างๆจากการที่แต่ละคนมีโลกที่เกิดจากกรรมส่ง การสะสมความคิด ความรู้ ประสบการณ์มาต่างกัน อันเป็นที่มาส่งผลให้ต้องไปรับกรรมอย่างที่ตนทำมา และขยายผลกรรมต่อๆ
ความรักจากความเมตตา
 การเสพเมตตานานๆนั้น เหมือนจิตได้ดื่มกินน้ำเย็นรสหวานน่าติดใจ
การเสพเมตตานานๆนั้น เหมือนจิตได้ดื่มกินน้ำเย็นรสหวานน่าติดใจ
เมตตาเป็นสิ่งที่หาได้ยากในผู้คนยุคเรา และเมตตาก็เป็นสิ่งที่ก่อตัวขึ้นได้ยากในเราเองเมื่อขาดแคลนบุคคลที่น่าเมตตา แต่สำหรับนักภาวนา ผู้ปฏิบัติธรรมเจริญสติตามรอยบาทพระศาสดา เมตตาเป็นธรรมะไม่จำกัดกาล ไม่จำเป็นต้องรอเจอบุคคลที่ควรมีเมตตาให้เสียก่อน แต่ฝึกรินเมตตาได้เลย ผ่านน้ำคำและน้ำใจ กระทั่งแก่กล้าพอจะเขยิบขึ้นถึงขั้นแผ่เมตตาไม่มีประมาณ
        
อุปาทาน ความฝัน ความจริง
 คำ ว่า ‘อุปาทาน’ หมายถึงอาการที่เรานึกเอาเอง หรือทึกทักเอาว่าจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ทั้งที่จริงไม่ใช่ ตัวอย่างอันดีคือความฝัน เมื่อเราฝันว่าเป็นอะไรอย่างหนึ่ง จิตก็หลงยึดไปว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ต่อเมื่อสำนึกคิดอ่านปกติกลับมา ลืมตาตื่นขึ้น จึงค่อยตระหนักว่าเรื่องราวในฝันนั้นเหลวไหล เราไม่ได้เป็นอะไรอย่างนั้น อะไรอย่างนั้นไม่ได้เป็นเรา แม้ฝันว่าเป็นเรา เมื่อลืมตาตื่นก็ต้องตระหนักว่าเราไม่ได้ทำอย่างนั้น เราไม่ได้ไปในที่นั้น เราไม่ได้เจอใครคนนั้น ฯลฯ ฝันเป็นเพียงภาวะปรุงแต่งอันแสนพิสดารของจิต จบฝันเมื่อไหร่ อาการทึกทักเหลวไหลทั้งปวงก็จบตาม
คำ ว่า ‘อุปาทาน’ หมายถึงอาการที่เรานึกเอาเอง หรือทึกทักเอาว่าจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ทั้งที่จริงไม่ใช่ ตัวอย่างอันดีคือความฝัน เมื่อเราฝันว่าเป็นอะไรอย่างหนึ่ง จิตก็หลงยึดไปว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ต่อเมื่อสำนึกคิดอ่านปกติกลับมา ลืมตาตื่นขึ้น จึงค่อยตระหนักว่าเรื่องราวในฝันนั้นเหลวไหล เราไม่ได้เป็นอะไรอย่างนั้น อะไรอย่างนั้นไม่ได้เป็นเรา แม้ฝันว่าเป็นเรา เมื่อลืมตาตื่นก็ต้องตระหนักว่าเราไม่ได้ทำอย่างนั้น เราไม่ได้ไปในที่นั้น เราไม่ได้เจอใครคนนั้น ฯลฯ ฝันเป็นเพียงภาวะปรุงแต่งอันแสนพิสดารของจิต จบฝันเมื่อไหร่ อาการทึกทักเหลวไหลทั้งปวงก็จบตาม
        
ถามตอบเรื่องรักๆ กับคุณดังตฤณ
 มีคนถาม : การปรับให้เข้ากัน เราควรจะต้องทำยังไงคะ จึงจะไม่รู้สึกว่าเหนื่อยหรืออึดอัดจนเกินไปน่ะค่ะ ขอบคุณค่ะ
มีคนถาม : การปรับให้เข้ากัน เราควรจะต้องทำยังไงคะ จึงจะไม่รู้สึกว่าเหนื่อยหรืออึดอัดจนเกินไปน่ะค่ะ ขอบคุณค่ะ
พี่ตุลย์ตอบ : -คนเราจูนจิต จูนชีวิตเข้าตรงกันได้ด้วยการคุยกันอย่างมีเหตุผลบ่อยๆ ความขัดแย้งและการยอมรับด้วยเหตุผลจะปรับคลื่นที่ไม่ตรงให้เข้ากันเนียน
บทความอื่นๆ...
- แผนที่เดินทางพ้นทุกข์ในความรัก :)
- อยู่กันไม่ให้เสียเวลา จากกันไม่ให้เสียดายและเสียใจ
- เจ้าสาวกลัวฝน
- กรณียเมตตสูตร
- ฝึกแผ่เมตตา
- ธรรมะกับความรัก
- คิดได้
- รักให้เป็นต้องเย็นใจ
- เลือกคนรัก และรักษาความรัก
- อยากรู้ใจคนอื่นจริงๆ
- ถ้าเราอยากมีรัก เราต้องรู้จักตนเองก่อน
- รู้คุณแทนคุณ
- อยากรู้จักความรักให้มากขึ้น?
- เหงา..... ใจจะขาดแล้วเอย
- ความหลงกับความจริง
Page 32 of 42
 
													
				 ติดตามใน facebook
 ติดตามใน facebook ติดตามใน twitter
 ติดตามใน twitter