อยู่กันไม่ให้เสียเวลา จากกันไม่ให้เสียดายและเสียใจ

loveเปิดประเด็นไว้ “ความรัก....อยู่กันไม่ให้เสียเวลา จากกันไม่ให้เสียดายและเสียใจ”
อ่านบทความมาหลายบล๊อคจะเห็นว่า ไม่ว่าจะเอ่ยถึงประเด็นไหน ก็จะนำมาที่ เป้าหมายในการทำคือการมีความสุข

หลายๆคนที่อ่านคงไม่ปฏิเสธใช่ไหมคะว่า อยากมีความรักก็เพราะอยากมีความสุข
วันนี้ก็เลยจะเอาประสบการณ์จากที่เรียนกับพี่ชาย และที่เรียนรู้มามาแบ่งปันกันดูค่ะ

เริ่มต้นอยากมีความรักที่มีความสุขต้องทำอย่างไร
ในทางพุทธเนี่ยบุญเป็นที่มาของความสุข
ความสุขในการอยู่ร่วมกับคนรักก็แบ่งได้3ระดับดังนี้

ระดับที่ 1 ระดับทาน

พี่ชายเคยบอกว่า การที่ได้ร่วมกันปรารถนาดีกับผู้อื่นจะเป็นแรงดึงดูดให้คนสองคนมีความปรารถนาดีต่อกัน ดังนั้นในเบื้องต้น ให้หัดทำทานร่วมกันค่ะ โดยตั้งเจตนาให้ดีนะ ตั้งเจตนาไว้ว่า “จะร่วมกันทำทานเพื่อความสุขของผู้อื่น เพื่อให้ผู้อื่นพ้นทุกข์”

พอทำได้บ่อยๆ จะเริ่มเข้าใจกฎของธรรมชาติแล้วค่ะ “ให้อย่างไรได้อย่างนั้น”
ให้ความสุข ความสุขและความชุ่มชื่นใจก็กลับมาที่คนทั้งสอง ^^

ผลพลอยได้ที่เมื่อทำทานด้วยใจสละสิ่งที่เป็นของตนเพื่อความสุขของผู้อื่นก็คือ เราจะรู้จักสละความเห็นแก่ตัว ความเข้าข้างตัวเองออกไป เวลาที่มีปัญหานี่คนเราส่วนใหญ่ชอบคิดถึงตัวเองใช่ไหมคะ แต่พอหัดทำทานเพื่อคนอื่นบ่อยๆโดยไม่คิดถึงตนเองนี่มันชินค่ะ มันจะเกิดด้านที่ฉุกคิดว่าเราอยากปรารถนาดีต่อกันและกัน มากกว่าจะอยู่เพื่อเอาเข้าตัว:)

ระดับที่2 ระดับศีล

ศีลเป็นตัวป้องกันความทุกข์ คือการไม่เบียดเบียนให้ผู้อื่นเป็นทุกข์ ก็จะเป็นเกราะป้องกันไม่ให้เราทุกข์ได้

ศีลนี่หลายๆคนเข้าใจว่ามีศีล 5 ความจริงยังมีศีล 8 ศีล 10 ศีล 227 แต่จะศีลกี่ข้อ เหตุผลหลักทั้งหมดเป็นเรื่องเดียวกัน คือ “การมีเจตนาไม่เบียดเบียนใคร”

พูดอย่างละเอียดอาจจะระวังตัวแจกันเกินไปว่าทำอะไรผิดบ้าง เอาเป็นว่าสำหรับคนเดินดินอย่างเราง่ายๆเอาแค่ศีล 5 ก่อนก็ได้ค่ะ

การร่วมกันรักษาศีล5 จะเป็นตัวป้องกันทุกข์ให้คนสองคนเดินกันไปอย่างราบรื่นไม่มีอุปสรรค
และก็จะคล้ายๆเรื่องทานค่ะ ทำทานปรารถนาให้คนที่เรารักมีความสุข การรักษาศีล ฝึกบ่อยๆก็รู้จักระงับยับยั้งใจไม่เบียดเบียนใครต่อใครให้เป็นทุกข์แล้ว ก็จะไม่คิดเบียดเบียนกันและกันให้เป็นทุกข์ด้วย:)

ระดับสุดท้าย เป็นระดับที่สำคัญที่สุด ทำให้อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข(พ้นทุกข์)ที่สุด คือเรื่องการภาวนาค่ะ
ญขอเรียกการภาวนารวมครอบคลุมทั้ง การทำสมาธิและ วิปัสสนานะคะ

จุดประสงค์ของการภาวนาคือเพื่อรู้แจ้ง สละความเห็นผิดๆ
เมื่อการอยู่ร่วมกันเป็นการเกื้อกูลกันเพื่อสละความเห็นผิด ชีวิตก็เข้าร่องรอยของความถูกต้องแล้วล่ะ:)

การภาวนาจะช่วยให้เรารู้ทันใจตนเอง เข้าใจธรรมชาติของกิเลส เข้าใจความไม่เที่ยงไม่แน่นอนของอารมณ์(ไม่ดี)ที่เกิดขึ้นแล้วก็หมดลงไปเองได้ เข้าใจความไม่มีตัวตนเพราะควบคุมความรู้สึกให้เป็นอย่างใจไม่ได้ แล้วเราจะไปบังคับใครให้เป็นอย่างใจ ยึดทุกอย่างไว้ให้เป็นตัวเราเพื่อให้ทุกข์ไปเพื่อ?

เมื่อสร้างความสุข3ระดับให้เจริญเติบโตในความสัมพันธ์ของคนทั้งสองแล้ว ความสุขเกิดขึ้น ความทุกข์ลดลงอย่างเห็นได้จริงตามที่ได้ลงมือทำแล้ว เราจะรู้สึกว่าความรักครั้งนี้ทำชีวิตและจิตวิญญาณให้เติบโตขึ้น “ไม่เสียเวลา”

“จากกันก็ไม่เสียดาย”ที่ไม่มัวแต่เอาเวลาไปวีนกัน เอารัดเอาเปรียบกัน เพราะต่างคนต่างจะให้สิ่งดีๆเพื่อให้อีกฝ่ายมีความสุข และเมื่อภาวนาจนได้ที่แล้ว ก็จะรู้ว่าการพบกันต้องมีจาก อะไรเกิดแล้วก็ต้องดับไปเป็นธรรมดา เหมือนสภาวะอารมณ์ ความรู้สึกและความคิดอื่นๆที่เราเห็นบ่อยๆ นั้น “ เราจะไม่เสียใจเพราะเข้าใจทุกอย่างเป็นอย่างดีแล้ว” :)

ปล. แถมหน่อยค่ะว่า สำหรับคนโสดก็พัฒนาตัวเองให้มีความสุขแบบนี้ได้ คนมีคู่ก็ต้องตั้งใจพัฒนาฝ่ายตนเองให้ดีก่อนนะคะ ที่แนะนำนี่ไม่ได้หมายความว่าต้องบังคับให้อีกคนรู้สึกอยากร่วมกันทำแบบเดียวกันนะคะ แต่เป็นอย่างการตั้งความปรารถนาให้ตนเองมีความสุขเพื่อเป็นตัวอย่าง ทำความสุขให้เกิดมีขึ้นกับตนเพื่อเอาความสุขที่เรารู้จักสร้างเองแล้วนี้ไปให้กับคนที่เรารัก

เมื่อเขาเห็นเราทำแล้วดี แล้วมีความสุขแล้ว เขาก็จะอยากทำตามขึ้นมาได้

หรือถ้าไม่ใช่ ก็แปลว่าเขาไม่ใช่คู่ที่จะเหมาะสมเดินไปตามทางความสุขนี้ด้วยกัน เราอาจจะไปพบคนใหม่ที่เหมาะสมกว่า แต่ความสุขที่เรารู้จักสร้างเองได้แล้วนี้จะยังอยู่ และความปรารถนาดีก็ยังมีให้กันอยู่ได้ ไม่ว่าอยู่ในสถานะใดค่ะ :)


 © Copyright 2011. เหตุเกิดจากความรัก.