แผนที่เดินทางพ้นทุกข์ในความรัก :)

heart treeวันนี้จะมาเล่าประสบการณ์การเดินทางตามที่ได้เรียนรู้มาจากพี่ชายค่ะ เผื่อจะเป็นไอเดียให้กับใครๆได้พ้นทุกข์ในเรื่องความรักได้ วิธีนี้เป็นวิธีที่พี่ชายได้ทดลองทำมา และเอามาสอน แล้วดิฉันก็ได้พบประสบการณ์อย่างเดียวกัน ทำให้พ้นทุกข์ในความรักไปทีละเปลาะค่ะ

เริ่มต้นการเดินทาง

ชีวิตคนเรานี่ควรเดินอย่างมีเป้าหมายนะคะ ลองถามใจตนเองว่าทุกวันนี้กำลังทำอะไร และดำเนิน(เดิน)ไปทางไหนอยู่?

ดิฉันย้อนไปก่อนหน้านั้นเห็นตนเองว่า เดินไปตามความอยากเรื่อยๆโดยไม่รู้ว่าตนเองต้องการอะไร แต่เมื่อมาพบความทุกข์ในความรัก จนมาเจอพี่ชาย พี่ชายก็สอนให้ชีวิตมีเป้าหมายในการเดินในแต่ละวันมากขึ้นค่ะ

พี่ชายสอนว่า ให้ตั้งจิต อธิษฐานสิ่งที่เราต้องการได้

ธรรมชาติมีความมหัศจรรย์อย่างหนึ่งคือ เมื่อเราต้องการสิ่งใด และได้กำหนดใจไว้แล้ว

“ธรรมชาติจะเมตตาให้ในสิ่งที่เราต้องการ แต่ไม่ใช่อย่างการขอรถแล้วได้รถแบบมีคนเสกโยนมาให้นะคะ แต่ธรรมชาติจะให้มาในรูปแบบของโอกาสที่จะทำให้เราก้าวเดินไปจนไปถึงสิ่งๆนั้นตามปรารถนา”

อ่านจากประวัติของพระภิกษุหลายๆองค์ ท่านที่เป็นเอตทัคคะด้านต่างๆก็ได้ดำเนินรอยตามแบบเดียวกันคือ ได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้ว่าจะอยากจะเป็นอย่างไร ได้อย่างไร หลังจากนั้นก็ดำเนินการสั่งสมบารมีตามนั้นจนได้บรรลุผลตามเป้าหมาย

“ขั้นที่ตั้งจิตอธิษฐานนี้จึงเปรียบได้กับการกำหนดเป้าหมายให้จิตมีทิศทาง เหมือนเอาหมุดปักลงที่ที่เราต้องการจะไปในแผนที่ เพื่อให้ใจตนเองมีเป้าหมายชัดเจน เราจึงต้องศึกษาให้ดีว่าสิ่งที่เราต้องการนั้น ทำได้จริง เกิดประโยชน์จริง”

เป้าหมายที่ดิฉันตั้งไว้เป็นหลักคือ “การขอให้พ้นทุกข์ ในด้านคู่ครองก็ขอให้มีคู่ครองที่เหมาะสมกัน เกื้อกูลเจริญเติบโตส่งเสริมกันไปทางธรรม”

สาเหตุเพราะว่าถ้าใจเรามีเป้าหมายว่าต้องการคนที่เหมาะสม พอถึงช่วงเวลาที่กรรมหยุดส่งผลให้เกิดความไม่เหมาะสมระหว่างคู่ครองในขณะนั้น ใจก็จะไม่ปักยึดติด แต่จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้าเพื่อการพัฒนาไปสู่ความพ้นทุกข์ได้(แต่ถ้าตั้งอธิษฐานไว้ว่าขอให้เป็นคู่กับคนนั้นคนนี้ เกิดชาติไหนเขาไปอยู่กับคู่ที่ทำบุญมากกว่า เราก็ต้องนั่งรอแกร่วทุกข์ทรมาน)

และเหตุผลที่ให้ขอให้เจริญก้าวหน้าไปทางธรรมด้วยกัน ก็เพราะว่าการเข้าใจธรรมะ(ชาติ)จะช่วยให้เราพ้นทุกข์ การมีคู่ครองที่เกื้อหนุนเพื่อความพ้นทุกข์จะเป็นการใช้ชีวิตร่วมกันแบบมีเป้าหมายเพื่อสิ่งที่ดีงาม การเดินไปด้วยกันก็จะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขมากกว่าการร่วมคู่กันแบบอื่นๆ

การตั้งจิตนั้นจะให้ผลหนักแน่นที่สุดก็ตอนจิตมีกำลัง วิธีที่ดิฉันทำก็คือ จะตั้งจิตอธิฐานตอนหลังทำบุญเสร็จเช่น หลังทำสังฆทาน หลังให้ทานแล้วสุขใจ หลังเดินจงกรม นั่งสมาธิ จิตขณะโปร่งสะอาดด้วยกุศลนั้นจะมีแรงดี ที่จะสื่อไปถึงธรรมชาติได้

ต่อมาเรื่องการออกเดินทาง

เมื่อเรามีมุดปักเป้าหมายไว้แล้ว ก็ต้องเริ่มออกเดิน

ตามที่ได้กล่าวไว้ ธรรมชาติจะให้สิ่งที่เราต้องการในรูปแบบของโอกาส

“วิธีการเดินอาจมีหลากหลาย แต่วิธีที่พี่ชายและดิฉันใช้และทำให้เดินได้ไวขึ้น เห็นเป้าหมายชัดขึ้น เร็วกว่าวิธีอื่นๆ ก็คือ การช่วยเหลือคนค่ะ”

“ตามกฎที่ว่าให้สิ่งใดย่อมได้สิ่งนั้นกลับมา”

ให้สุขได้สุข ให้ปัญญาได้ปัญญา ให้คนอื่นพ้นทุกข์เรื่องใดใจเราจะพ้นทุกข์เรื่องนั้น ยิ่งให้โดยไม่หวังผลเพื่อตน แต่เป็นไปเพื่อการสละตัวตนเพื่อประโยชน์สุขของคนอื่นเท่าไหร่ ยิ่งทำให้กำแพงอัตตาของเราหายไป เห็นอะไรได้ชัดขึ้น ผลสะท้อนกลับมาที่เราแรงขึ้น

พี่ชายบอกว่าดิฉันมีพื้นฐานที่ดีที่เป็นคนที่มีความปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ กล่าวได้ว่า ความปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์นั้นเป็นกำลังเคลื่อนให้ดิฉันก้าวไปข้างหน้าทีเดียวค่ะ

หลังจากที่ตั้งจิตไว้ว่าต้องการคู่ที่เหมาะสม บวกกับมีฐานที่ดีที่ปรารถนาดีกับคนอื่น ธรรมชาติก็ได้ส่งโอกาสมาในรูปแบบของการได้ช่วยเหลือคนที่มีปัญหาความทุกข์ในความรักเรื่องต่างๆ

จากประสบการณ์ที่เจอมันจะมีสลับกันไปบ้างค่ะ

หลักๆคือ ธรรมชาติจะส่งโอกาสมาให้เราเห็นตนเองว่ามีปัญหาหรือความผิดเรื่องใดที่ต้องขัดเกลา เนื่องจากว่าที่คนเราทุกข์ก็เพราะทำสิ่งที่เป็นเหตุแห่งทุกข์มา บางคนมีนิสัยที่เป็นตัวการทำให้เราไม่ถึงจุดหมายอยู่ อยู่ดีๆนั่งนึกเราอาจจะไม่รู้ตัว(หรืออาจจะเยอะจนไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อน^^) ธรรมชาติจะให้บทเรียนที่สอนให้เราขัดเกลา พอเรามองตนเอง เห็นตนเอง รู้จักตนเอง แก้ที่ตนเองได้แล้ว ก็คือการที่เราก้าวหน้าไปสู่เป้าหมายทีละก้าวทีละก้าว

สิ่งที่ทำให้ก้าวไวที่สุด ก็คือการช่วยเหลือแบบ”ให้ปัญญา”คน เพราะมันทำให้เรามีไอเดียที่จะเอาไปใช้พัฒนาต่อ

เหมือนให้ปลา1ตัวเขาอิ่มหนึ่งมื้อ สอนวิธีจับปลาเขาจะมีวิชาไปหาเลี้ยงชีพตลอดไป(ตัวเราเองก็พัฒนาเทคนิคการหาปลาได้เก่งขึ้น ได้จำนวนมากขึ้นตามลำดับ)

บทเรียนที่ได้เจอก็มีหลากหลายค่ะ เช่น เบื้องต้นตอนที่ไม่มีความรู้อะไรมากนัก ดิฉันก็พิมพ์หนังสือธรรมะเป็นธรรมทานช่วยคนอื่นเรื่องความรักแบบภาพกว้างไปเรื่อย

บางทีทุกข์เรื่องความรักเรื่องนี้อยู่ หาทางออกให้ตนเองไม่ได้ ก็แค่ตั้งใจว่า รุ้แล้วว่าความทุกข์เช่นนี้เป็นอย่างไร อยากช่วยคนอื่น ไม่อยากให้คนอื่นทุกข์แบบนี้จัง พอแค่ตั้งใจคิดแบบนี้ ก็จะบังเอิญไปเจอคนมีปัญหาแบบเดียวกันมาขอคำปรึกษา

พอได้เห็นปัญหาหลายๆอย่างอย่างเป็นกลาง ไม่เอาอารมณ์มาเกี่ยวข้อง ไม่เอาความอยากมาตัดสิน ก็ทำให้เห็นต้นตอว่าที่แท้จริงแล้วปัญหาที่เผชิญอยู่มันมีที่มาอย่างไร ก็นำมาปรับใช้กับตนเองได้

หรือพอตั้งใจจะให้คนอื่นพ้นทุกข์เรื่องใด เราก็ไปขวนขวายหาธรรมะเรื่องนั้นๆมาบอกคนอื่น เราเองก็ได้อ่านได้เรียนรู้ไปด้วย (เล่าให้ฟังนะคะ อันนี้แปลกดี ยิ่งช่วยมากขึ้น บางครั้งอยากให้ธรรมะใครเรื่องไหน ก็จะบังเอิญไปเปิดเจอหนังสือ หรือเวปเรื่องนั้นๆพอดีโดยไม่ต้องออกแรงหานานเลย ^^)

บางทีเรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราติดขัดปัญหาข้อไหนอยู่ ก็มีคนมาขอให้ช่วยในเรื่องหนึ่งพอดี ทำให้เรารู้ตัวเองขึ้นมาได้ว่าเรามีปัญหาอะไรอยู่ ณ ตอนนั้น

การช่วยคนอื่นนั้นเป็นอย่างที่พี่ชายบอกคือ ได้ทั้งเพื่อน ได้ทั้งแรงบุญหนุนให้เจริญก้าวหน้า (เราช่วยใครให้พ้นเรื่องใด อานิสงค์ก็ทำให้เราพ้นจากทุกข์เรื่องนั้น) ได้ปัญญาที่จะพัฒนาตนเองต่อให้ยิ่งๆขึ้น ได้ความสุขในการเดินทาง ไปช่วยคนอื่นให้พ้นทุกข์ ทำให้เราพ้นเร็วขึ้นมันสบายกว่าเราไม่สร้างตัวช่วย เรียนรู้จากทุกข์ตนเอง และจมนานๆกว่าจะเห็น และอื่นๆ...

“การสร้างปัญญาให้คนอื่น เท่ากับสร้างปัญญาให้ตนเอง จะทำให้เราเห็นปัญหาตนเองในแต่ละขณะได้อย่างตรงจุด แก้ปัญหาขณะนั้นถูกที่ ทำให้พ้นทุกข์เรื่องนั้นๆได้ไวขึ้น”

ทั้งนี้ใครจะไปถึงเป้าหมายได้ตรงแค่ไหน เร็วช้าแค่ไหนก็อยู่ที่สะสมทุนในอดีตที่ไม่ดี(ที่ขัดขวาง) ที่ดี(ที่ส่งเสริม)ไว้มามากน้อยแค่ไหน และอยู่ที่ว่าแต่ละคนมีความตั้งใจเดิน (และทำโอกาสที่มีอยู่ในแต่ละช่วง)อย่างสม่ำเสมออย่างไร

หวังว่าทุกคนจะได้ไอเดีย และได้พบอะไรดีๆแบบที่พี่ชายและดิฉันได้พบเจอนะคะ
ขอให้โชคดีค่ะ:)

*******

เพิ่มเติม
แก้ข้อเสียแล้วเนี่ย ไม่ใช่ว่าจะได้คนรักมาเลยนะคะ
แก้ข้อเสียคือการหยุดเหตุไม่ดีที่จะให้ผลเป็นทุกข์ในอนาคต
กับทั้งรู้จักรักษาคนรัก(ที่ดี ที่เหมาะสม)ไว้ได้ในอนาคต

ส่วนการจะได้คู่ครองที่ดีนั้น มันมีปัจจัยซับซ้อนกว่านั้น
คือจะต้องมีคนที่ทำบุญร่วมกันมาในชาตินั้น เพื่อที่จะดึงดูดมาเจอกันได้ด้วย
ซึ่งมีหรือไม่มีนั้น ไม่สามารถรู้ได้ด้วยการนึกเดาเอาเอง
แต่ที่พี่ชายได้ดำเนินมา และเป็นตัวการที่ทำให้ได้พบเจอคนรักที่ดีคือการสร้างเหตุที่ดีเพิ่มคือ การช่วยเหลือคนให้สมหวัง(เข้าใจ)เรื่องความรักค่ะ

หยุดเหตุไม่ดีก็เรื่องนึง สร้างเหตุที่ดีก็เรื่องนึงค่ะ:)
อย่างไรเสียเมื่อเข้าใจตามนี้แล้ว จุดหมายแต่ละคนอยู่ใกล้หรือไกลไม่รู้ แต่อย่างน้อยก็ได้ชื่อว่าออกเดินแล้ว รู้ทิศทางแล้ว
ดีกว่าอยู่เฉยๆ ไม่รู้ว่าหนทางอยู่ไหน แล้วก็ต้องทุกข์แบบเดิมๆ;)

********

กำหนดจิตตั้งเป้าหมาย สร้างตัวช่วยคือช่วยคน วิธีที่ดีที่สุดคือให้ปัญญา :)


 © Copyright 2011. เหตุเกิดจากความรัก.