วิธีมีรักอย่างที่ฝัน

dreamพี่โจ้สอนให้มองและแยกให้เห็นระหว่าง ความสุขที่เกิดจากการที่เราคิดและคาดหวังไปเองว่าจะมี กับความจริงที่อยู่ตรงหน้า เพื่อจะได้รู้ว่าสิ่งที่เราต้องทำจริงๆคืออะไร

เช่น คิดว่าการได้ไปกินข้าวกับแฟนจะมีความสุข แต่ไม่ดูที่ปัจจุบันว่าเรากำลังสร้างเหตุแห่งทุกข์อยู่หรือเปล่า เขากำลังยุ่งเราก็ไปงอน โกรธ อยากได้ความสุขข้างหน้า แต่ทำให้มีทุกข์ในปัจจุบัน(ซึ่งก็จะทำให้ไม่ได้ทั้งสุขข้างหน้าอย่างที่คิดไว้ ไม่ก็สุขอยู่คนเดียว และสุขในปัจจุบัน) หรือเช่น คิดว่าถ้ามีแฟนอย่างนี้จะมีความสุข แต่ไม่ได้ดูว่าปัญหาที่เราติดอยู่ตอนนี้จริงๆคืออะไรที่ทำให้ไม่มีคนรักที่ให้ความสุขได้อย่างแท้จริง เราไม่ได้มองว่าเรารู้จักตนเองหรือยัง เลือกคนเป็นไหม มีข้อบกพร่องตรงไหนที่ทำให้ยังไม่ได้ สร้างเหตุอย่างไรให้ได้เจอคนแบบนั้น

นั่นเป็นคือคำตอบว่าทำไมคนเราไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการเสียที เพราะเรามัวแต่อยากได้และฝันถึงอนาคต อยู่กับความสุขที่เป็นแค่”หวังว่าจะมี” โดยไม่ได้ทำเหตุในปัจจุบันให้ตรงกับผลที่อยากได้เสียที

ดังนั้นประเด็นสำคัญคือ เราต้องรู้จักวิธีสร้างเหตุให้ตรง และ”ลงมือ”สร้างเหตุ

อย่าตั้งเงื่อนไขกับตนเองว่าต้องทำอย่างนี้ ต้องเป็นคนนี้ เพราะอาจเป็นการยึดตามกรรมเก่าซึ่งมันอาจจะส่งให้ได้รับผลดีหรือไม่ดีเราก็ยังไม่รู้ ให้เปิดใจที่จะรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น และอย่าเพิ่งเชื่อจนกว่าจะได้ไตร่ตรองด้วยเหตุด้วยผล(ไม่ใช่ตามอารมณ์ความรู้สึก)

วิธีการอย่างที่พี่ชายทำมาก็คือ

เวลาทำบุญจิตใจสว่าง หรือทำสมาธิสวดมนต์จนจิตใจสงบ ให้ตั้งใจอธิษฐาน (การอธิษฐานก็การตั้งจิตไว้ ตั้งเจตนาไว้ ให้ใจ)ว่า “ขอให้มีคู่ครองที่เหมาะสมและเจริญเติบโตไปพร้อมๆกัน” สาเหตุที่ให้ตั้งใจว่าขอให้เป็นคนที่เหมาะสม ก็เพราะว่าถ้าไม่เหมาะสม ก็คือมีความต่าง มีความขัดแย้ง ต้องเหนื่อยในการปรับเข้าหากันมาก

สาเหตุที่ให้ขอว่าให้เป็นคนที่สามารถเติบโตไปพร้อมๆกัน ก็เพราะว่าถ้าไม่มีความสามารถในการเติบโต ก็คือไม่มีการพัฒนา ไม่มความก้าวหน้า  อันที่จริงคนเราทุกคนจะเติบโตตามกาลเวลาอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับไปในทิศทางไหน 

พี่โจ้เคยบอกเสมอว่า เราทุกคนเหมือนนักเดินทาง เดินทางมาเจอกันในจุดๆหนึ่งด้วยความเหมาะสม แต่คนทุกคนมีการเติบโตตามวันเวลา ประสบการณ์ การสร้างเหตุใหม่ต่างๆ ทำให้มีการเปลี่ยนแปลง หากเป้าหมาย ความชอบต่างๆไม่เหมือนกัน ก็จะเกิดความไม่เหมาะสม ความขัดแย้ง ทำให้ต้องแยกย้ายกันไปตามจุดหมายของตน ทั้งนี้ยังมีตัวแปรในเรื่องของความเร็วช้าในการเดินทาง หากพัฒนาตนเองด้วยความเร็วไม่เท่ากัน ก็ห่างกันอีก

ด้วยเหตุนี้จึงควรอธิษฐานขอว่าให้มีคู่ที่เหมาะสมแล้วเดินไปพร้อมๆกันได้ 

การอธิษฐานบ่อยๆจะช่วยย้ำเตือนจิตให้จำ จิตบังคับไม่ได้ แต่สอนและฝึกได้

การอธิษฐานย้ำบ่อยๆจะช่วยให้เราไม่ลืมสิ่งที่เราตั้งใจไว้ ไม่หลงยึดที่ตัวบุคคล (ที่ถ้าเกิดไม่เหมาะสมกันแล้ว แต่เรายึด เราก็จะต้องทุกข์ หรือไม่ได้ก้าวหน้าไปตามเป้าหมายอย่างที่เราตั้งใจ)

เมื่ออธิษฐานจิตแล้ว ให้เรียนรู้จากสิ่งที่เข้ามา กำลังทุกข์เรื่องอะไร หรือติดขัดเรื่องไหน ให้เรียนรู้ที่จะแก้ไข ถ้าในภาษาคอมพี่ชายก็บอกว่าเหมือนแก้ bug 

การตั้งความปรารถนาดีเพื่อช่วยผู้อื่นให้พ้นทุกข์และมีความรักที่ดีเป็นตัวช่วยมากๆอย่างหนึ่ง ทุกข์เรื่องใดไปช่วยคนให้พ้นทุกข์เรื่องนั้น ด้วยความเข้าใจทุกข์ ด้วยความปรารถนาไม่อยากให้คนอื่นต้องมาทุกข์แบบเรา การช่วยนั้นก็เช่นให้ศึกษาธรรมะที่ตรงกับเรื่องนั้นๆเพื่อนำวิธีทางแก้ไปบอกต่อ ให้คำแนะนำ (เวลาเราแก้ปัญหาของคนอื่น เราจะมองอย่างไม่มีอคติ คือเป็นกลาง ไม่เข้าข้างตัวเอง ไม่มีตัวตน) ในแง่การช่วยคนแบบให้ความรู้แบบส่งธรรมะให้เฉยๆ กับให้แบบให้คำแนะนำได้คิดร่วมด้วยแล้วได้เอามาสำรวจตนเองด้วยนั้นต่างกัน การให้คำแนะนำและเอาทบทวนกับตนเองจะทำให้จิตเข้าใจง่ายและเร็วขึ้นกว่า

ผลอันเกิดจากการช่วยผู้อื่นให้พ้นคือบุญที่ช่วยให้เราหลุด ปัญญาที่เห็นอย่างเป็นกลางคือ การย้อนนำมาแก้ไขปัญหาได้ด้วยความเข้าใจทุกแง่ทุกมุม ไม่จำเป็นต้องไปแก้ที่คนอื่นคือไปเปลี่ยนที่ผล(ซึ่งจะทำให้เรื่องยิ่งยุ่งไปกันใหญ่ เพราะใครทำกับเราเช่นไร ก็เพราะเราสร้างเหตุให้มาเจอแบบนั้น)  

การพัฒนาตนเอง ลดข้อเสีย สร้างเหตุที่ดี ถ้าพูดในแง่กรรมก็คือ ทำให้เราทุกข์น้อยลง สุขมากขึ้น มีชีวิตที่ดีขึ้น พบเจอคนที่เหมาะสมในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับ

นอกจากนี้การทำบุญกุศลต่างๆที่เป็นกรรมขาวจะช่วยให้จิตใจเราสว่าง และดึงดูดสิ่งดีๆเข้ามาได้ง่ายขึ้น เห็นอะไรชัดเจนขึ้น

อ่านเพิ่มเติมบทความ วิธีพบรัก

http://www.facebook.com/#!/note.php?note_id=206498749371922

^^


 © Copyright 2011. เหตุเกิดจากความรัก.