"กามนิตวาสิฏฐี" กับการรอคอยรักแท้

kamanittaเขียนจากใจ ญเป็นคนหนึ่งที่เคยเฝ้ารอรักแท้มาตลอด แต่ก็ชอบเรียนรู้เรื่องกรรมและสนใจพระพุทธศาสนา จนมาเจอพี่ชาย จนมาเจอพุทธศาสนา ก็ได้เรียนรู้เรื่องราวตามที่เขียนในfan page นี้

ที่ผ่านมาก็ทุกข์เพราะการรอ ทรมานเพราะการคอยมาตลอด ต่อให้เรามีรักที่ดีแค่ไหน ก็ไม่มีอะไรจะรับประกันว่าจะได้เจอกันทุกภพทุกชาติ หนังสือเล่มนี้ แนะนำสำหรับคนที่ทุกข์ทรมานด้วยการรอคอย.... :)

"กามนิตวาสิฏฐี"

ตัดตอนมาบางส่วนที่รู้สึกชอบ ใครกลัวเสียอรรถรสก็ข้ามไปอ่านตอนท้ายแนะนำลิ้งค์หนังสือได้นะคะ ^^

โอวาทพระพุทธเจ้าแก่วาสิฏฐี

          "วาสิฏฐี เราขอให้ภาวนาบทธรรมนี้ไว้ คือ ที่ใดมีความรัก ที่นั้นมีความทุกข์"

          "เท่านั้นหรือพระเจ้าข้า?"

          "เท่านั้น พอแก่การแล้ว"

          "เมื่อข้าพระองค์เข้าใจในพระโอวาทนี้ดีแล้ว จะประทานอนุญาตให้ข้าพระองค์จาริกไปเฝ้า เพื่อรับพระโอวาทสูงขึ้นไปอีกได้หรือไม่?"

          "ถ้าเห็นจำเป็นก็อนุญาต"

          "ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ไฉนข้าพระองค์จะรู้สึกว่าจำเป็นหรือไม่? ก็พระองค์ไม่ใช่เป็นที่พึ่งของพวกข้าพระองค์ดอกหรือ?"

          "จงถือเอาตนเป็นที่พึ่ง จงถือเอาพระธรรมเป็นที่พึ่ง วาสิฏฐี จงทำในใจซึ่งวจนะของเราให้จงดี"

...........

วาสิฏฐีรู้สึกประจักษ์แก่ฌาณ เป็นพระพุทธเจ้าอย่างที่ทรงไสยาสน์จะเสด็จปรินิพพาน ทรงชำเลืองเห็น และทอดพระเนตรเพ่งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตรัสกะนางว่า "มาแล้วหรือ? บทโอวาทที่ให้ไว้ระลึกแจ้งจบแล้วหรือ?"

          กราบทูลสนองในวิถีจิตว่า

          "จบแล้ว พระเจ้าข้า"

          "ดีแล้ว วาสิฏฐี หนทางอันไกลที่ต้องเดินทรมานกายมา ไม่ทำให้เหนื่อยบ้างหรือ? ยังต้องการให้ตถาคตช่วยเหลืออยู่อีกหรือไม่?"

          "พอความต้องการแล้ว พระเจ้าข้า"

          "ดีแล้ว ตัวท่านยังยึดถือตนอยู่หรือเปล่า?"

          "ข้าพระองค์รู้แจ้งซึ่งตนแล้ว พระเจ้าข้า เหมือนผู้ลอกกาบกล้วยออก จะไม่พบแก่นต้นกล้วยนั้นฉันใด ข้าพระองค์ก็ได้เรียนรู้แจ้งซึ่งตนว่า เป็นสภาพแปรปรวน ไม่คงที่ถาวร เพราะหาแก่นสารมิได้ แล้วข้าพระองค์ก็ย่อมละความอาลัยยึดถือดื้อดึงเสียด้วยความหยั่งทราบเท่าที่ เป็นจริงว่า นี้ไม่ใช่ของเรา นี้ไม่ใช่อาตมันของเรา มีแต่มายา เท่านั้น"

          "ดีแล้ว บัดนี้ท่านยังยึดถืออยู่แต่พระธรรมอย่างเดียวหรือ?"

          "ข้าแต่พระองค์ พระธรรมเป็นเครื่องนำให้ข้าพระองค์ไปสู่จุดหมาย เปรียบเหมือนผู้ที่ข้ามลำธารโดยอาศัยแพเป็นเครื่องข้าม ครั้นเมื่อถึงฝั่งที่หมายแล้ว ก็ไม่ข้องแวะแพนั้นต่อไป หรือไม่ลากเอาแพนั้นขึ้นไปด้วย เพราะฉะนั้น ในบัดนี้ได้ปล่อยอะไร ๆ ทั้งสิ้นจนพระธรรมนั้นแล้ว ไม่ได้เกาะเกี่ยวอะไรอีกต่อไป"

          "ดีแล้ว เมื่อไม่เกาะเกี่ยวในสิ่งไร ปราศจากความพัวพันในสิ่งไร ๆ มีสติรู้ตัวอยู่เสมอว่ามีแต่มโนธาตุ นั้นเป็นเพียงเป็นคู่สำหรับญาณ คือ ความรู้อันแจ่มใสและสำหรับสติโดยเฉพาะ ทั้งไม่อาศัยเกาะเกี่ยวอะไร ๆ ในภพเลย ดั่งนี้ ท่านก็จะขึ้นไปสู่ที่อันเป็นศานติอย่างตถาคตได้"

ถ้าได้อ่านตั้งแต่ต้นจนจบ ไคลแมกซ์อีกตอนก็จะอยู่ตรงกามนิตด้วย แต่อุบไว้ก่อน เผื่อใครสนใจจะอ่านก็หาซื้อได้ตามร้านหนังสือหรืออ่านได้ที่เวป

http://www.khonnaruk.com/html/book/liturature/kamanita/kamanita-index.html

กว่าจะถึงวันสิ้นสุดความทุกข์แห่งการรอคอย บุญใดๆที่ญทำมาก็ขอเป็นกำลังส่งให้ทุกคนได้มีความรักที่ดีเพื่อนำทางไปสู่ความไม่ทุกข์อีกเลยนะคะ ^^


 © Copyright 2011. เหตุเกิดจากความรัก.