จากผู้อ่าน ถามตอบเรื่องความรัก by P'jo ตอนที่ 1

ถาม: คบกับแฟนคนนี้มาเกือบ 3 ปี เกิดจากความเหงา เพราะมาทำงานต่างจังหวัด พอแม่รู้ท่านก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ แต่ท่านก็ไม่ว่าอะไรค่ะ จนมาวันนี้เราเพิ่งรู้ว่าคนที่เราคบอยู่นี้มันไม่ใช่(นานเกินไปมั๊ย) เลยตัดสินใจย้ายกลับไปทำงานที่บ้านค่ะ กลับไปอยู่กับแม่ (ต้องเลิกกับแฟน) ปัญหาคือเค้าไม่ยอมเลิกกับเราค่ะ (บอกเลิกไปแล้ว) ไม่รู้จะทำอย่างไรให้เค้ายอมเลิกค่ะ พี่พอจะบอกแนวทางให้ได้มั๊ยค่ะ??? สารภาพตามตรง ว่า หมดรัก เหลือแต่ความสงสารจริงๆ ค่ะ ทำไงให้หลุดพ้นสภาพนี้ดีค่ะ ?

 

แม่บอกว่า "ตอนนี้รู้แล้วใช่มั๊ยว่า ความไม่เหมาะสมกัน มันเป็นอย่างไร"

 

อยากหนีคะ หนีกลับบ้าน พี่ว่าวิธีนี้เป็นยังไงค่ะ? จะได้ไม่ต้องเห็นหน้าเค้าเวลาเสียใจ (เวลาทะเลาะกันทีไร จะเลิกกันทีไร เค้าจะทำตัวดีมาก และอีกไม่นานนิสัยเดิมๆ ก็กลับมา) เครียดค่ะพี่ อยากหาทางออกที่ดีที่สุด ทั้ง 2 ฝ่าย

  

พี่โจ้ตอบ: เริ่มศึกษาและปฏิบัติ ย้ำข้อปฏิบัตินะครับ คือทำทาน รักษาศีลและภาวนา หมั่นถวายสังฆทานอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเพื่ออุทิศให้เขา ทุกครั้งที่ปฏิบัติ ไม่ว่าจะนั่งทำสมาธิหรือเดินจงกรม วันนึงไม่ต้องนานมาก แค่ 15 นาที (นั่งสมาธิสัก 5 แล้วเดินจงกรมอีก 10) พอจบก็อุทิศให้เขา ทำไปเรื่อยๆ ใจเราจะอึดอัดน้อยลง จะทะเลาะกันน้อยลง จะเงียบมากขึ้น จะเมตตาเขาโดยไม่ต่อความการทะเลาะได้มากขึ้น และพร้อมๆกันกุศลและอานิสงส์ที่อุทิศให้เขาก็จะค่อยๆส่งผลให้เขาคลายจากความยึด และในอีกทางหนึ่ง เมื่อเราไม่ทะเลาะและไม่ต่อความ เหลือแต่ความเมตตา ปรบมือข้างเดียวก็จะเริ่มไม่ดัง และเมื่อเราเริ่มทำอะไรก็เป็นธรรมะไปหมด เขาจะเริ่มรู้สึกถึงความไม่เสมอกัน เพราะคุยกันไม่รู้เรื่อง

 

ในขณะเดียวกัน ถ้าเขาหันมาปฏิบัติอย่างจริงจัง เขาจะวางอะไรง่ายขึ้น ทะเลาะน้อยลงด้วย

 

ธรรมะคือทางออกครับ ลองนำไปใช้ดูนะครับ _/|\_

 

 

 

ถาม: ขอบคุณค่ะ สำหรับคำแนะนำ แต่ตอนนี้ไม่ได้ทะเลาะกันเลยค่ะ อยู่ความรู้สึกก็บอกว่ามันไม่ใช่ ทั้งๆที่ก็ไม่มีคนใหม่ อยากขอคำแนะนำว่าจะคุยกับเค้าอย่างไรดีให้เค้าเข้าใจอะคะ

 

พี่โจ้ตอบ: ไม่ต้องคุยในตอนนี้เป็นพิเศษครับ เริ่มปฏิบัติเพื่อให้ใจเราเปลี่ยนและเลิก "ยัน" กับเขาให้ต้องเลิก สาระของการแนะนำให้ไปปฏิบัติคือ เพื่อให้ใจวางลงจริงๆ สภาพการ "ยัน" กันจากสองฝ่ายจึงจะหายไป เมื่อหายไป อีกฝ่ายก็จะเหมือนปรบมือข้างเดียวไม่ดัง ก็จะค่อยๆเลิกราไปเองครับ การจะจบปัญหานี้ไม่ใช่จะสำเร็จด้วยการคุยกันครับ เพราะประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นครับ

ประเด็นอยู่ในใจ ต้องแก้ที่ใจครับ จึงแนะนำไปอย่างนั้นครับ

 

 

ถาม: อนุโมทนากับคำตอบด้วยน่ะคะ และเป็นกำลังใจให้น่ะคะ ....แล้วถ้าเกิดกรณีคล้ายกัน คือรู้ว่าเค้าไม่ใช่แต่ตัวเราก็เลิกกับเค้าไม่ขาดสักที ใช้วิธีแก้แบบเดียวกันได้ป่าวค่ะ ^^

 

พี่โจ้ตอบ: ได้ครับ ถวายสังฆทานแล้วกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลเพื่อใช้หนี้ให้เบาบางลง จะมีผลให้ใจเราตั้งมั่นและเห็นปัญหาชัดขึ้น จากนั้น การสมาทานศีลให้จิตตั้งมั่นขึ้น แล้วศึกษาจิตว่าติดอะไรอยู่เพื่อจะได้แก้ไขที่เหตุของปัญหานั้นๆ ด้วยการหัดรู้เท่าทันการกระทำ(กายกรรม) รู้เท่าทันการพูด(จากเดิมที่ไปพล่อยๆ ก็กลายมาเป็นยั้งไว้ทัน) และในที่สุดจะมารู้เท่าทันความคิด (มโนกรรม) จนสามารถวิจารณ์ตนเองได้อย่างตรงไปตรงมา เห็นสาเหตุของทุกปัญหาจากในจิตเราได้อย่างชัดเจนและแก้ไขได้ถูกจุดโดยไม่ต้องรอให้ใครมาด่าไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมครับ

 

~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~

 

จากผู้อ่าน: ผมติดตามงานเขียนหรือได้อ่านบทความต่างๆ จากชีวิตผมที่คิดว่าตายทั้งเป็นเพราะอกหักตอนนี้ฟื้นและกลับมาได้ดีกว่าเดิมแล้วครับ เข้าใจชีวิตของมนุษย์และคำว่า"รัก"ได้ดีกว่าเดิมแล้ว บุญกุศลที่ทำให้ผมกลับมายืนได้อีกครั้งขอให้ Credit แก่พี่โจ้ คุณหญิง และพี่ดังตฤณ จริงๆครับ

 

พี่โจ้ตอบ: ทุกคนเป็นเฟืองตัวหนึ่ง น้องก็เป็นเฟืองหนึ่งในนั้น วันที่เราเข้าใจมันดีขึ้น และสามารถถ่ายทอดความเข้าใจที่ช่วยคนให้พ้นจากทุกข์เหล่านี้ให้คนรอบๆข้างที่กำลังดิ้นหนีทุกข์แต่ไม่พบหนทาง จะเป็นวันที่ดียิ่งกว่าและดียิ่งขึ้นไปเรื่อยๆสำหรับเราครับ :-) _/|\_

 

ฝรั่งใช้คำว่า pay it forward ไม่ต้อง pay it back นะครับ แค่ pay it forward แล้วแนะนำให้เขา pay forward ต่อไปเรื่อยๆ โลกจะดีขึ้นได้ ตอนนี้คนที่ละเลยต่อความดีมีมากเหลือเกิน ต้องสู้ด้วยความดีครับ :-)

 

 

จากผู้อ่าน:  ผมคนนึงเลยแหละครับที่ละเลยในความดี ทะนงคิดว่าตัวเองดีอยู่แล้ว ต้องเสียอะไรไปซักอย่างจริงๆถึงจะรู้สึกตัว ^^

 

พี่โจ้ตอบ: ที่เสียไปนั้นเป็นสิ่งที่ต้องเสียอยู่แล้วครับ เพราะยังไงก็รักษาเอาไว้ไม่ได้ ตอนนี้พอรู้แล้ว เข้าใจชัดๆแล้ว ละเลยต่อความดีน้อยลงแล้ว ถึงจะเหมาะสมกับสิ่งที่ดีกว่าเดิมขึ้นๆไปตามระดับความดีที่มีในใจครับ :-)

 

ที่ว่ารักษาไว้ไม่ได้ เพราะตอนนั้นยังไม่รู้วิธีรักษา ไม่ว่ายังไง เมื่อล้มและศึกษาเหตุที่ล้มแล้ว เห็นเหตุแล้วว่าเป็นความเข้าใจผิดในเรื่องความรัก ก็จะเริ่มรู้วิธีสังเกต เข้าใจความทุกข์มากขึ้น เข้าใจความสุขมากขึ้น และจะค่อยๆเข้าใจวิธีได้มาและรักษาไว้ซึ่งความรักที่เป็นสุข ก่อทุกข์ให้น้อยหรือไม่ก่อเลย :-) ผมโง่มาก่อนและซวยมาก่อน เอาความโง่ของตัวเองมาขยายสู่กันฟังครับ ตอนนี้เลยกลายมาเป็นมีความสุขกับการพยายามให้คนเข้าใจและไม่พลาดเหมือนที่ผมพลาดไป :-)

 

 

จากผู้อ่าน: " พอดีผมอ่านหนังสือนี้แล้วแหละจริงๆจึงรู้ว่าดีมาก และมีเพื่อนสนิทคนนึงอกหักพอดี ผมจึงอยากให้หนังสือเล่มนี้เป็นกำลังใจเค้า เพราะหนังสือเล่มนี้แหละที่ช่วยให้ผมวันนี้เดินต่อไปได้แล้ว หลังจากที่ล้มและเข้าใจผิดกับความรักและความหลงมานาน / ขอบคุณมากครับ"

 

พี่โจ้ตอบ: ล้มเพราะเข้าใจผิด


 © Copyright 2011. เหตุเกิดจากความรัก.